พระอรหันต์ ๔ ประเภท
๑ สุกขวิปัสสโก เป็นผู้รู้อย่างค่อยละเอียดลออ บรรลุอย่างสงบเงียบ และไม่รู้ขณะ
เปรียบการเดินทางนั่งรถแล้วหลับสบาย
เมื่อถึงจุดหมายยังไม่รู้สึกตื่น (เปรียบกิเลสหมดสิ้นไปจากใจแต่ไม่รู้ฯ) คนขับต้องมาปลุกให้ตื่น (เปรียบสิ่งทดสอบ) จึงรู้ว่าถึงแล้ว
เช่น พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
๒ เตวิชโช เป็นผู้ได้วิชชา
๓ บรรลุรู้ขณะ เปรียบกับการเดินทางนั่งรถไปแล้วได้ชมทิวทัศน์ต่างๆไปด้วย เมื่อถึงจุดหมายปลายทางจึงรู้เองและเห็นเองว่าได้ไปถึงที่แล้ว
พระโสภิตเถระ เอตทัคคะในทางระลึกปุพเพนิวาสานุสติญาณ
คือการระลึกชาติหนหลัง
๓ ฉฬภิญโญ เป็นผู้ได้อภิญญา ๖ และแสดงฤทธิ์ได้ เช่น สามารถเหาะเหินเดินอากาศ
รู้จิตใจของผู้อื่น เป็นต้น บรรลุรู้ขณะ
เปรียบเช่นข้อ ๒ พระมหาโมคคัลลานะเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีฤทธิ์
๔
จตุปฏิสัมภิทัปปัตโต แตกฉานเต็มเหนี่ยว กว้างขวางลึกซึ้งและสอนเก่ง บรรลุรู้ขณะ เปรียบข้อ
๒ –
๓ พระมหาโกฏฐิตเถระ เอตทัคคะใน
ทางแตกฉานในปฏิสัมภิทา ๔ “ สังฆาปาราชิกไม่มีในพระอริยบุคคล และเมื่อได้หลุดพ้นไปจากสมมุติด้วยประการทั้งปวงแล้ว พระอรหันต์นั้นท่านจึงเป็นสติวินัย คือฉลาด รอบคอบ รอบตัวและ
|
รอบกับทุกสิ่งที่มาเกี่ยวข้อง
ไม่มีปัญหาอะไรกับสมมุติ
เป็นอฐานะคือเป็นไปไม่ได้ (อย่าไปโจษท่านฯ)
การปฏิบัติไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นสุกขวิปัสสโก
เตวิชโช ฉฬภิญโญหรือจตุ
ปฏิสัมภิทัปปัตโต
เพราะจะทำให้สงสัย ไม่ต้องแข่งกับใคร ชนะตนได้นั้นประเสริฐสุด คือทำให้กิเลสหมดสิ้นไปจากใจแล้วก็เป็นใช้ได้ (เพียงพอและ สุดยอด) ถึงเวลานั้นแล้วไม่ดีดไม่ดิ้น (ไม่ตื่น สักแต่ว่าฯ) เพราะนั่นคือสอุปาทิเสสนิพพาน (ที่สุดแห่งทุกข์
ที่สุดแห่งจิตและเป็นชาติสุดท้าย) ”
สายตรงพ้นทุกข์ (ทางลัด) โดย พระ สุปัญญา ธนปัญโญ
สายตรงพ้นทุกข์ (ทางลัด) โดย พระ สุปัญญา ธนปัญโญ